หุ้นไทยฟื้นตัวรับปีใหม่ แรงส่งช้อปดีมีคืน ลุ้นยืนเหนือ 1,660 จุด

 

โบรกฯ ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นยืนเหนือแนวต้านสำคัญ 1,660 จุด ในกรอบระหว่าง 1,650-1,665 จุด ตอบรับบรรยากาศฟื้นตัวสดใสเริ่มต้นปีจากตลาดต่างประเทศบนความหวังการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ-แรงหนุน “ช้อปดีมีคืน” คาดผู้ติดเชื้อโอไมครอนทั่วโลกทำจุด Peak ปลาย ม.ค. 2565 แนะเก็งกำไร 4 ธีมหลัก จับตาความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน หากเกิดภาวะสงครามขึ้น สินทรัพย์ปลอดภัยอาจได้รับความสนใจอีกครั้ง

หุ้นไทยฟื้นตัวรับปีใหม่
วันที่ 4 มกราคม 2565 บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) รายงานแนวโน้มตลาดหุ้นไทยว่า คาดดัชนี SET Index เช้านี้จะปรับตัวขึ้นยืนเหนือแนวต้านสำคัญ 1,660 จุด ในกรอบระหว่าง 1,650-1,665 จุด ตอบรับ 1.บรรยากาศการฟื้นตัวสดใสเริ่มต้นปีจากตลาดต่างประเทศวานนี้ บนความหวังการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้ และ 2.มาตรการภาครัฐช่วยหนุนการจับจ่ายใช้สอยต้นปีตามโครงการ “ช้อปดีมีคืน”

อย่างไรก็ดีความเสี่ยงการระบาดของโควิดสายพันธุ์โอไมครอนยังคงอยู่ แม้ระยะสั้นตลาดดูตอบรับไปมากแล้ว แต่ระยะกลางถึงยาวยังเป็น Overhang ที่อาจทำให้ Upside ของตลาดจำกัด

สัปดาห์นี้ติดตาม 1.ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐ (เดือน ธ.ค. 2564) 2.ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีน (เดือน ธ.ค. 2564) และ 3.การประชุม OPEC+ วันนี้ที่คาดว่าจะเพิ่มกำลังการผลิต 400,000 บาร์เรลต่อวันในเดือน ก.พ. 2565

กลยุทธ์การลงทุนซื้อหวยออนไลน์ถูกกฎหมายมั่นใจได้ ทางฝ่ายวิจัยฟิลลิปฯแนะนำเก็งกำไร 1.หุ้นรับประโยชน์มาตรการช้อปดีมีคืน 2.หุ้นรับประโยชน์การปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันดิบ 3.หุ้นรับประโยชน์จากธีม EV และการพุ่งขึ้นของราคาหุ้น Tesla ที่ปิดพุ่งมากกว่า 13% รับรายงานส่งมอบรถยนต์ในปี 2564 ที่ดีกว่าคาด และ 4.หุ้นหนุนการ Work From Home หลังเทศกาลปีใหม่ ส่วนการลงทุนระยะยาวเน้นสะสมหุ้นที่ราคายัง Laggard และคาดว่าจะฟื้นตัวตามเศรษฐกิจในปีนี้

ผู้ติดเชื้อทั่วโลกทำจุด Peak ปลาย ม.ค. 2565
โดยมุมมองการระบาดของโอไมครอน จากแนวโน้มการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์โอไมครอนทั่วโลกทำจุดสูงสุดใหม่ติดเชื้อกว่า 1.8 ล้านราย หลายประเทศ เช่น สหรัฐ, ฝรั่งเศส, อังกฤษ มีการเร่งตัวขึ้นของผู้ติดเชื้อ แต่จำนวนผู้เสียชีวิตไม่เร่งตัวขึ้นตาม สอดคล้องกับรายงานว่าความรุนแรงของสายพันธุ์โอไมครอนอาจน้อยกว่าสายพันธุ์เดลต้า

ดังนั้นการระบาดอาจจะแพร่เป็นวงกว้างเกินกว่าจะควบคุมได้ แต่ความรุนแรงจะไม่มากเท่าระลอกก่อนหน้า ซึ่งทางรัฐบาลอาจไม่ถึงขั้นต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์ ทำให้เศรษฐกิจไม่หยุดชะงักลง ทั้งนี้คาดว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโอไมครอนทั่วโลกจะทำจุด Peak ที่สุดในปลายเดือน ม.ค. 2565 ดังนั้นต้องเฝ้าติดตามการระบาดในประเทศอย่างใกล้ชิด

จับตาความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน
ขณะที่ความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน ต้องเฝ้าระวัง จากข่าวการเตรียมเคลื่อนกำลังพลบุกยูเครนของรัสเซียนั้น ล่าสุดการเจรจาระหว่างชาติพันธมิตรนำโดยสหรัฐ ผ่านประธานาธิบดีโจ ไบเดน กับฝ่ายรัสเซียโดยประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ทั้งสองฝ่ายยังไม่มีท่าทีที่เป็นบวกและขู่ใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจระหว่างกัน หากรัสเซียรุกรานยูเครน

ทั้งนี้ ต้องติดตามการเจรจานัดถัดไปในวันที่ 9-10 ม.ค. 2565 ของสหรัฐ-รัสเซีย และการเจรจาระหว่าง NATO และรัสเซียวันที่ 12 ม.ค. 2565 ซึ่งหากเกิดภาวะสงครามขึ้น สินทรัพย์ปลอดภัยอาจได้รับความสนใจอีกครั้ง รวมถึงราคาน้ำมันดิบโลกอาจปรับตัวขึ้น