สุนันท์ ศรีจันทรา
กระทรวงการคลังประกาศเป็นมั่นเป็นเหมาะปีนี้จะเก็บภาษีจากการขายหุ้น สร้างความหวั่นไหวให้นักลงทุน แต่ล่าสุดแผนรีดภาษีถูกเลื่อนออกไปแล้วโดยไม่มีกำหนด
เหตุผลการเลื่อนเก็บภาษีการขายหุ้น กระทรวงการคลังอ้างว่า สถานการณ์ยังไม่เหมาะสม โดยระบบเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากสงครามยูเครน และการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ไม่มีการระบุว่า กระทรวงการคลังจะเริ่มเก็บภาษีขายหุ้นเมื่อไหร่ แต่ที่แน่ๆ ปีนี้คงชะลอไปก่อน และอาจชะลออีกหลายปีก็เป็นไปได้
เบื้องหลังการเก็บภาษีขายหุ้นที่กลายเป็นมวยล้ม จะเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่ เป็นสิ่งที่น่าตั้งข้อสังเกตเหมือนกัน
เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีคะแนนนิยมกำลังตกวูบ รัฐบาลจึงพยายามหลีกเลี่ยงการสร้างผลกระทบกับคะแนนนิยม ซึ่งการเก็บภาษีขายหุ้นอาจทำให้นักลงทุนไม่พอใจรัฐบาลได้
ภาษีการขายหุ้นจะเก็บในอัตรา 0.10% ของมูลค่าการขายหุ้นตั้งแต่ 1 ล้านบาท หรืออัตรา 1,000 บาท ต่อการขายหุ้นมูลค่า 1 ล้านบาท ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อนักลงทุนรายย่อย
แต่นักลงทุนรายใหญ่จะได้รับผลกระทบโดยตรง เพราะต้นทุนการซื้อขายหุ้นจะเพิ่มขึ้น ผลที่ตามมาคือ มูลค่าการซื้อขายหุ้นจะลดลง เนื่องจากนักลงทุนรายใหญ่ รวมทั้งนักลงทุนต่างชาติชะลอการลงทุน
คนในแวดวงตลาดหุ้นได้ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านการเก็บภาษีขายหุ้น ระบุว่ายังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม และกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนอย่างรุนแรง โดยนักลงทุนต่างชาติจะลดความสนใจตลาดหุ้นไทย ไม่เข้ามาลงทุน ซึ่งจะกระทบต่อการพัฒนาตลาดหุ้นและการระดมทุนของบริษัทจดทะเบียน
แต่ผลในด้านลบวกการเก็บภาษีขายหุ้นมีเหมือนกัน เพราะจะช่วยลดพฤติกรรมการเก็งกำไรระยะสั้น ป้องกันการสร้างราคาหุ้นหรือปั่นหุ้น เนื่อบงจากการปั่นหุ้นจะมีต้นทุนที่สูงขึ้น
และหุ้นขนาดเล็กที่ราคาพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงผิดปกติจะหมดความนิยม เพราะนักลงทุนจะหันมาลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับมากขึ้น
ภาษีขายหุ้นจะนำไปสู่การปฏิรูปตลาดหุ้นครั้งสำคัญ โดยพฤติกรรมการปั่นหุ้นที่ดำเนินมาเกือบครึ่งศตวรรษจะถูกกำจัด นักลงทุนรายใหญ่หรือเจ้ามือหุ้นจะก่ออาชญากรรมยากขึ้น และนักลงทุนจะปรับพฤติกรรมสู่การลงทุนโดยยึดหลักปัจจัยพื้นฐาน และตัดสินใจด้วยเหตุด้วยผล
ไม่ใช่ถูกปลุกเร้า มอมเมาให้ตามแห่เก็งกำไรหุ้นร้อน จนกลายเป็นเหยื่อของขาใหญ่หรือเจ้ามือหุ้น
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ควรชูธงสนับสนุนแผนการเก็บภาษีขายหุ้นอย่างเต็มที่ เพราะจะช่วยให้สามารถกำกับดูแลการซื้อขายให้เกิดความบริสุทธิ์ยุติธรรมมากขึ้น
ไม่ต้องเหนื่อยต่อการใช้มาตรการกำกับการซื้อขาย ไม่ต้องไล่กวดจับหุ้นที่ราคาเคลื่อนไหวผิดปกติ
เพราะภาษีขายหุ้นจะทำให้แก๊งปั่นหุ้นสูญพันธุ์
แต่การปฏิรูปตลาดหุ้นครั้งใหญ่ การเปลี่ยนผ่านการลงทุนที่ถูกครอบงำด้วยพฤติกรรมการเก็งกำไรสุดโต่ง ไปสู่การลงทุนบนหลักพื้นฐานต้องล้มพับไปอย่างน่าเสียดาย โดยเบื้องหลังอาจเกิดจากเหตุผลทางการเมือง มากกว่าข้ออ้างผลกระทบสงครามยูเครนและไวรัสโควิด-19
การชะลอแผนเก็บภาษีขายหุ้นเป็นการปล่อยผีขาใหญ่หรือเจ้ามือหุ้นให้เปิดปฏิบัติการปั่นหุ้น เปิดโอกาสให้หุ้นร้อนอาละวาดต่อไป
และไม่รู้ว่า แผนการเก็บภาษีขายหุ้นอีกกี่ปีกี่ชาติจึงจะประกาศใช้